เราเคยรู้หรือไม่ว่าอุณหภูมิในร่างกายของเรานั้นมีอุณหภูมิเท่าไหร่ เป็นคำถามที่หลายๆคนที่ยังไม่รู้ เกิดการสงสัยเมื่อยามที่ใครสักคนในครอบครัวหรือคนรอบข้างตัวเรานั้นเกิดไม่สบายขึ้นมานั้นเอง คำถามนี้อาจจะเป็นคำถามที่คาใจของใครหลายๆคน เพราะคำตอบที่ได้มาอาจไม่ตรงตามความต้องการที่เราอยากรู้คำตอบที่ได้มาอาจแตกต่างกันไป เพราะปกติแล้วอุณหภูมิในร่างกายของเรานั้นบางคนอุณภูมิคงที่ไม่มีการเจ็บไข้ได้ป่วย แต่สำหรับบางคนอุณหภูมิขึ้นๆลงๆ แล้วสาเหตุจริงๆ มาจากอะไร แล้วปัจจัยอะไรที่ทำให้อุณภูมิของร่างกายเรามีการเปลี่ยนแปลง
มนุษย์ส่วนใหญ่อาจเคยรู้มาบ้างแล้วว่าอุณหภูมิในร่างกายนั้นจะอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส หรือ มีความแตกต่างกันไปเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วอุณหภูมิในร่างกายกายมนุษย์นั้นไม่ได้อยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส อย่างที่กล่าวไปว่าอุณหภูมิในร่างกายนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่น สภาพอากาศปัจจุบันที่เราอาศัยอยู่ หรือเกิดจากการที่ร่างกายปรับตัวกับสภาพอากาศนั้นๆไม่ทัน และที่อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มสูงขึ้นและลดลงก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สบายหรือมีไข้เสมอไป
สารบัญเนื้อหา
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออุณหภูมิในร่างกาย
1.) เพศ
ถ้าหากร่างกายได้รับความเย็นเข้ามา ร่างกายจะเริ่มกลไกทำหน้าที่โดยการเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย แล้วทำไมต้องเป็นเพศด้วยละที่มีผลต่ออุณหภูมิ สาเหตุเพราะว่าร่างกายของเพศหญิงจะมีการตอบสนองอุณหภูมิต่อการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วกว่าเพศชาย ดังนั้น อาจจะทำให้เกิดอาการสั่น หรือตัวเย็นเร็วได้เร็วกว่าเพศชาย หรืออีกหนึ่งเหตุผลคือ การที่เพศหญิงเป็นประจำเดือนก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเช่นกันเพราะมีการหลั่งของฮอร์โมนออกมาหลายชนิด เป็นต้น
2.) อายุ
อีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นสาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิในร่างกายของมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงนั้น คือ อายุ ทำไมต้องเป็นอายุ เพราะว่าโดยร่างกายของมนุษย์มีช่วงที่ไม่เท่ากันและมีช่วงอายุที่แตกต่างกันไป เช่น เด็กตัวเล็กที่เกิดไปไข้ได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ หรือ คนสูงอายุที่เกิดการป่วยบ่อยเป็นเพราะอุณหภูมิไม่คงที่ มักจะได้ยินประโยคนี้บ่อย จากคนสูงอายุ คือ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ซึ่งจะแบ่งช่วงอายุเด็กและทารก โดยปกติจะอยู่ที่ระหว่าง 36.6 ถึง 37.2 องศาเซลเซียส ส่วนผู้ใหญ่โดยปกติจะอยู่ที่ระหว่าง 36.1 ถึง 37.2 องศาเซลเซียส และส่วนร่างกายของผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปี หรือมากกว่า 65 ปี ขึ้นไป โดยปกติจะอยู่ที่ระหว่าง 36.2 องศาเซลเซียส เป็นอุณหภูมิที่ต่ำกว่าช่วงวัยอื่นๆ
3.) การสูบบุหรี่
อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่น่าเป็นไปได้แต่ก็เป็นไปได้ที่ทำให้อุณหภูมิเปลี่ยน นั้นคือบุหรี่นั้นเอง สาเหตุเพราะมาจากควันของบุหรี่และการเผาไหม้ของบุหรี่ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบอุณหภูมิในร่างกายชั่วคราว อุณหภูมิที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของบุหรี่ถึงแม้จะไม่มีผลอะไรมากมาย แต่การที่สูบบุหรี่มากๆทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพแน่นอน
4.) การรับประทานอาหาร
การกินอาหารรสจัด เช่น รสเผ็ด เครื่องเทศเยอะๆ เช่น พริก ขิง ข่า สมุนไพรเหล่านี้มีฤทธิ์ร้อน จึงทำให้อุณหภูมในร่างกายเปลี่ยนได้นั้นเอง บางคนคิดว่า ไม่เกี่ยว แต่บอกเลยว่า เกี่ยวเต็มๆ อย่างที่จะเห็นได้ชัดเจน เวลาที่กินข้าวกับเพื่อน เพื่อนกินเผ็ด รสจัด หน้าจะแดง เหงื่อออก นั่นคือ สัญญาณของอุณหภูมิที่สูงขึ้น
5.) ตำแหน่งที่ทำการวัดอุณหภูมิ
โดยปกติตำแหน่งที่ทำการวัดอุณหภูมิ มี 4 ตำแหน่ง คือ หู ทวารหนัก รักแร้ และใต้ลิ้น ตำแหน่งทั้ง 4 นี้ อุณหภูมิที่วัดออกมาได้จะแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น
ปาก : เมื่อมีอาการไข้จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 37.8 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า
รักแร้ : เมื่อมีอาการไข้จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 37.2 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า
หูและทวารหนัก : เมื่อมีอาการไข้จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 38 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในร่างกายอาจเกิดได้หลายๆปัจจัยขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เช่น การออกกีฬากลางแจ้ง หรือ อุณหภูมิในห้องของบุคคลนั้นๆ การเปลี่ยนปลงอุณหภูมิที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงตามที่เกิดขึ้นจริงและเป็นปัจจัยต้นที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หากสงสัยอุณหภูมิในร่างกายที่ไม่ปกติควรไปพบแพทย์ เพื่อรับคำปรึกษาหรือทำการรักษาอย่างถูกวิธี