ยาไฮดรอกซีคลอโรควิน (Hydroxychloroquine) เป็นยาสำหรับป้องกันหรือรักษาการติดเชื้อมาลาเรีย (Malaria infections) ซึ่งเกิดจากยุงกัด และยังใช้สำหรับรักษาโรคอื่นๆ ได้ โดยมักใช้ร่วมกับยาอื่นเพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของตนเอง (Auto-immune disease) คือ โรคลูปัส (Lupus) โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) ซึ่งจะใช้ยานี้เมื่อใช้ยาอื่นไม่ได้ผลแล้ว หรือไม่สามารถใช้ยาอื่นได้
คุณสมบัติของยาไฮดรอกซีคลอโรควิน
มีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อน สามารถสะสมในเนื้อเยื่อที่มีลักษณะเป็นกรดได้ดี ในภาวะค่าความเป็นกรด-ด่างที่ปกติของเซรั่มและน้ำระหว่างเซลล์ ยาจะสามารถผ่านผนังเนื้อเยื่อได้อย่างอิสระ หลังจากรับประทานจะถูกดูดซึมเข้าสู่ทางเดินอาหารได้อย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาประมาณ 8-12 ชั่วโมง 60% ของยาจะจับกับโปรตีนในเลือด เข้าไปในเนื้อเยื่อและสะสมตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะในเม็ดเลือดขาว
มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย ควบคุมและลดการกำเริบของโรคลูปัส ลดอัตราการเกิดภาวะไตวาย ความดันโลหิตสูง การเกิดลิ่มเลือดอุดตัน และการติดเชื้อ ช่วยลดจำนวนการเจ็บข้อและจำนวนข้อที่บวมในผู้ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ลดอาการข้ออักเสบ อาการเจ็บตาและปาก ผื่นผิวหนัง และอาการโตของต่อมน้ำลาย
วิธีใช้ยา
การใช้ยาควรทานพร้อมอาหารหรือนมเพื่อป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง และควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา ขนาดของยาและวิธีการใช้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าใช้เพื่อป้องกันหรือรักษาโรคมาลาเรีย หรือใช้เพื่อรักษาโรคอื่นๆ ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
- รักษาและป้องกันการติดเชื้อมาลาเรียในทารกและเด็กเล็ก ขนาดยาขึ้นจะคำนวณตามน้ำหนักตัว ควรรับประทานยาตามสั่งของแพทย์
- ป้องกันการติดเชื้อมาลาเรีย รับประทานยานี้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 2 เม็ด ในวันเดียวกันของทุกสัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ก่อนเข้าสู่พื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อมาลาเรีย ระหว่างอยู่ในพื้นที่ให้รับประทานยา 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และหลังจากกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดให้รับประทานยาต่อเนื่องไปอีก 8 สัปดาห์
- รักษาการติดเชื้อมาลาเรีย รับประทานครั้งละ 4 เม็ด รับประทานอีกหลังจากผ่านไป 6-8 ชั่วโมง 2 เม็ด หลังจากนั้นรับประทานวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 2 เม็ด ติดต่อกัน 2 วัน
- รักษาโรคลูปัส จะรับประทานยาครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 1-2 ครั้ง
- รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ รับประทานยาครั้งละ 1-3 เม็ด วันละ 1 ครั้ง
ผลข้างเคียง
อาจมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ เบื่ออาหาร และท้องเสีย ซึ่งถือเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้และไม่รุนแรงนัก แต่หากอาการข้างต้นที่กล่าวมามีลักษณะรุนแรง หรือมีอาการปวดเมื่อยตัว ผมร่วง ประสาทหลอน หายใจเหนื่อย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ควรรีบไปพบแพทย์
ในกรณีที่ใช้ยาติดต่อกันในระยะยาวมีผลข้างเคียงที่สำคัญ คือ อาจเป็นพิษต่อจอประสาทตา จึงควรตรวจสอบสายตาอยู่เสมอในช่วงระหว่างการใช้ยา ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว จากการที่ยาไปสะสมอยู่ที่เรตินา (retina) ทำให้เกิดความผิดปกติของลานสายตา ทำให้มองภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน และกลัวแสง หากลดขนาดหรือหยุดยาอาการอาจดีขึ้น ทั้งนี้มีโอกาสที่ผลข้างเคียงจะรุนแรงถาวร และอาจร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้ สำหรับผู้ที่ใช้ยาเป็นระยะเวลานานควรพบจักษุแพทย์อย่างน้อยทุก 6 เดือน
ยาไฮดรอกซีคลอโรควิน (Hydroxychloroquine) เป็นยาที่ใช้ในการป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย แต่ปัจจุบันมีการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงมีการนำยามาใช้เพื่อรักษาสำหรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการทั่วไป และผู้ที่ติดเชื้อในระดับรุนแรง โดยใช้ร่วมกับยาอื่นๆ ทั้งนี้ไม่ใช่ยาสำหรับรักษาโรคโดยตรง เป็นเพียงการรักษาตามอาการเท่านั้น สำหรับวัคซีนและยาต้านเชื้อไวรัสยังอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัย เพื่อค้นหาตัวยาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคต่อไป