ใครที่ชอบ นอนกัดฟันจนเป็นนิสัยชอบเคี้ยวของแข็ง นั้นมีสิทธิ์ที่จะทำให้เกิดการสึก กร่อนของฟันหากว่าปล่อยนานวันเข้า ไม่ยอมไปรักษาจนความเสียหายนั้นลึกจนชั้นโพรงประสาทฟัน มีเสียวฟัน อาการปวด จนทำให้ฟันตาย และหนทางเดียวอาจต้องถอนฟันในที่สุด
1.สัญญาณอันตราย ฟันสึกกร่อน
หากพบอาการเตือนเบื้องต้น อย่างเช่น ภาวะเสียวฟัน ดูจากภายนอกแล้วมีอาการสึกกร่อนของฟัน ผิวเคลือบฟันได้ถูกทำลายถึงชั้นเนื้อฟัน กรณีนี้หากว่าคุณนั้นยังไม่ได้เข้ารักษาฟันอย่างถูกวิธี โดยการครอบฟันหรืออุดฟัน ฟันมีแนวโน้มที่จะฟันผุถึงชั้นโพรงประสาทของฟัน
และแบคทีเรียสามารถแพร่กระจายเพื่อไปทำลายเส้นประสาทในฟัน ส่งผลให้เส้นประสาทอักเสบ จนมีอาการปวดฟันในภายหลังดังนั้นในกรณีที่คุณเริ่มมีอาการเสียวฟันหรือสงสัยว่าคุณมีปัจจัยเสี่ยงต่อการสึกกร่อนของฟันด้านใดด้านหนึ่งควรได้รับการรักษาโดยทันตแพทย์เพื่อยืนยันและป้องกันก่อนมีอาการดังกล่าว
2.วิธีหลีกเลี่ยงอาการฟันสึกกร่อน
1.อย่าลืมเข้าไปตรวจสุขภาพฟันกับทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน
2.การที่เราแปรงฟันอย่างถูกวิธี ก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดฟันสึก กร่อนได้เช่นกัน และอย่าเลือกใช้ยาสีฟันที่ผงขัดแบบหยาบเป็นส่วนผสม
3.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแข็งเกินไป และอาหารที่มีรสเปรี้ยวเป็นส่วนผสม
4.คุณรู้หรือไม่ว่าเครื่องดื่มรสเปรี้ยว เช่น น้ำเสาวรสและน้ำมะนาว หรือเครื่องดื่มบางประเภทโดยเฉพาะน้ำอัดลมที่เราชอบดื่ม เป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันนั้นกร่อน หากเราชอบดื่มควรเปลี่ยนพฤติกรรมโดยลดความถี่ในการดื่มให้น้อยลงหรือดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อลดความเป็นกรดที่สามารถกัดกร่อนเคลือบฟันและฟัน
3.สาเหตุของฟันสึกกร่อน
ฟันสึก คืออาการที่ผิวฟันกร่อนหลุดไปทีละน้อย สังเกตุไม่ค่อยเห็น แต่สิ่งที่ทำให้ฟันสึกมักเกิดจากการคี้ยว ไม่ว่าจะเป็น น้ำแข็ง กระดูกไก่ ผลไม้ที่มีเปลือกแข็ง กระดูกหมู ถั่ว เป็นต้น หรือไม่ก็เป็นคนที่ชอบทานอาหารที่มีความเป็นกรดสูงอยู่ตลอด เช่น ของดองต่างๆ มะม่วง มะขาม หรืออาจเกิดจากการนอนกัดฟันจัวเองจนเป็นนิสัย
ซึ่งมีผลต่อการบดเคี้ยวรูปร่างของฟันและใบหน้า ซึ่งควรตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำและพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน การอาเจียนบ่อยๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการสึกกร่อนของฟันด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ยังดีที่เรายังหนุ่มยังสาวกันอยู่ สุขภาพฟันจึงแข็งแรงเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าหากว่าเรานั้นมีอายุที่มากขึ้นเรื่องฟันก็ยิ่งสำคัญ เพราะฉะนั่นหันมาดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่ตอนนี้กันดีกว่าค่ะ