ยาคลอโรควิน (Chloroquine) เป็นยาหลักที่ใช้ในการป้องกันและรักษาโรคมาลาเรียในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรค เชื้อมาลาเรียบางสายพันธุ์อาจมีการดื้อยา ต้องใช้การรักษากับยาอื่นร่วมด้วย นอกจากนี้ยังใช้ในการรักษาโรคอื่นๆ เช่น โรคอะมีบา โรคไขข้ออักเสบ โรคแผลเรื้อรัง โรคกล้ามเนื้ออักเสบ และโรคลูปัส เป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่อันตรายกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยและทดสอบยาเพื่อใช้ในการรักษาโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
คุณสมบัติของยาคลอโรควิน
มีคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับยาไฮดรอกซีคลอโรควิน คือ เป็นด่างอ่อน สามารถสะสมในเนื้อเยื่อที่มีลักษณะเป็นกรดได้ดี ในภาวะที่ค่าความเป็นกรด-ด่างของเซรั่มและน้ำระหว่างเซลล์มีความเป็นกรดอ่อนๆ ยาจะไม่สามารถผ่านผนังเนื้อเยื่อได้อย่างอิสระ แต่จะสามารถผ่านผนังเนื้อเยื่อได้เมื่อภาวะความเป็นกรด-ด่างอยู่ในระดับปกติ ยาจะถูกดูดซึมเข้าสู่ทางเดินอาหารได้อย่างรวดเร็วหลังจากรับประทาน ภายในระยะเวลาประมาณ 8-12 ชั่วโมง 60% ของยาจะจับกับโปรตีนในเลือดเข้าไปในเนื้อเยื่อ และสะสมตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะในเม็ดเลือดขาว
มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย ควบคุมและลดการกำเริบของโรคลูปัส ลดไขมันในเลือด ลดอัตราการเกิดภาวะไตวาย ลิ่มเลือดอุดตัน ความดันโลหิตสูง และการติดเชื้อ ช่วยลดจำนวนการเจ็บข้อและจำนวนข้อที่บวมในผู้ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ รวมถึงช่วยลดอาการข้ออักเสบ อาการเจ็บตาและปาก ผื่นผิวหนัง และอาการโตของต่อมน้ำลาย
วิธีใช้
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง จึงควรรับประทานยาพร้อมอาหารหรือนม ห้ามรับประทานยานี้พร้อมกับยาลดกรด และควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา ขนาดและวิธีการใช้ยาจะขึ้นอยู่กับว่าใช้เพื่อป้องกันหรือรักษาโรคมาลาเรีย หรือใช้เพื่อรักษาโรคอื่นๆ แบ่งได้ดังนี้
- รักษาและป้องกันการติดเชื้อมาลาเรียในทารกและเด็กเล็ก ขนาดยาขึ้นจะคำนวณตามน้ำหนักตัว ควรรับประทานยาตามสั่งของแพทย์
- ป้องกันการเกิดโรคมาลาเรีย รับประทาน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยรับประทานในวันเดียวกันของแต่ละสัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ ก่อนเดินทางไปในพื้นที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมาลาเรีย ระหว่างอยู่ในพื้นที่ให้รับประทาน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และหลังจากกลับจากพื้นที่เสี่ยงให้รับประทานต่อเนื่องอีก 8 สัปดาห์
- รักษาการติดเชื้อมาลาเรีย รับประทาน 1 ครั้ง ตามขนาดยาที่แพทย์สั่ง แล้วรับประทานอีกครั้งหนึ่ง หลังผ่านไป 6-8 ชั่วโมง ในขนาดยาครึ่งหนึ่งของครั้งแรก จากนั้นรับประทานวันละ 1 ครั้งต่อเนื่องไปอีก 2 วัน
- รักษาโรคอะมีบา รับประทาน 1 ครั้งตามขนาดยาที่แพทย์สั่งเป็นเวลา 2 วัน จากนั้นรับประทานยาในขนาดครึ่งหนึ่งของครั้งแรกทุกวัน เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
ผลข้างเคียง
อาจมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเสีย และผมร่วง ซึ่งถือเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้และไม่รุนแรงนัก แต่หากอาการข้างต้นที่กล่าวมามีลักษณะรุนแรง หรือมีอาการปวดเมื่อยตัว กล้ามเนื้ออ่อนแรง ประสาทหลอน หายใจเหนื่อย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ควรรีบไปพบแพทย์
ในกรณีที่ใช้ยาติดต่อกันในระยะยาวจะมีผลเสียต่อจอประสาทตา จึงควรตรวจสอบสายตาอยู่เสมอในช่วงระหว่างการใช้ยา ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เนื่องจากพิษของยาไปสะสมอยู่ที่เรตินา (retina) ทำให้เกิดความผิดปกติของลานสายตา ทำให้มองภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน และกลัวแสง หากลดขนาดหรือหยุดยาอาการอาจดีขึ้น ทั้งนี้มีโอกาสที่ผลข้างเคียงจะรุนแรงถาวร และอาจร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้ สำหรับผู้ที่ใช้ยาเป็นระยะเวลานานควรพบจักษุแพทย์อย่างน้อยทุก 6 เดือน
ยาคลอโรควิน (Chloroquine) เป็นยาหลักที่ใช้ในการป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย และเช่นเดียวกับยาไฮดรอกซีคลอโรควิน (Hydroxychloroquine) เนื่องจากมีปัญหาการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปัจจุบัน จึงมีการนำยามาใช้เพื่อรักษาสำหรับผู้ติดเชื้อทั้งผู้ที่มีอาการทั่วไป และผู้ที่ติดเชื้อในระดับรุนแรง โดยใช้ร่วมกับยาอื่นๆ ทั้งนี้ไม่ใช่ยาสำหรับรักษาโรคโดยตรง เป็นเพียงการรักษาตามอาการเท่านั้น สำหรับวัคซีนและยาต้านเชื้อไวรัสยังอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัย เพื่อค้นหาตัวยาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคต่อไป