การฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด
กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการติดตามสถานการณ์ของโรคหัดในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และรณรงค์ให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดตามกำหนด วัคซีนโรคหัดได้แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของโรค หากมีไข้ 3-4 วันจะมีผื่นแดง ที่ใบหน้าและกระจายไปตามลำต้นแขนและขาควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาทันที
ดร. สุวรรณาวัฒนา ยิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค
กล่าวถึงข่าวการแพร่ระบาดของโรคหัดในสหรัฐอเมริกาจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคหัดมากกว่า 1,000 รายใน สหรัฐ.
หัดเป็นโรคติดต่อได้ง่ายมาก เกิดจากเชื้อไวรัสหัด ในระยะแรกผู้ป่วยจะมีไข้ซึ่งมักมีไข้สูงไอมีน้ำมูกไหลจากจมูกอักเสบและเยื่อบุตาอักเสบจากเยื่อบุตาอักเสบ วันที่ 2-3 จะเริ่มด้วยจุดขาวในปาก เรียกว่า จุดของคอปลิก จากนั้นใน 3-5 วันจะมีผื่นแดงแบน ละเริ่มที่จะ ขึ้นบนใบหน้า จากนั้นจึงลามไปทั่วตัว
ในเด็กอายุ 7-12 ปีทั้งเด็กไทยและเด็กต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์โดยการฉีดวัคซีนที่ทุกจังหวัดในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2562 ซึ่งสามารถพาบุตรหลานไปรับวัคซีนรวมกับโรคหัด, โรคคางทูม, โรคหัดเยอรมัน, ไม่ตรงตามเกณฑ์รับการฉีดวัคซีนที่หน่วยบริการสุขภาพในพื้นที่ของคุณในช่วงเดือนรณรงค์
เราสามารถป้องกันโรคหัดได้โดยการฉีดวัคซีน วัคซีนป้องกันโรคหัดมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคมากกว่า 95% ตามโปรแกรมการสร้างภูมิคุ้มกันของกระทรวงสาธารณสุข จะป้องกันวัคซีนป้องกันโรคหัดคางทูม – หัดเยอรมัน2 เข็มเข็มแรกเมื่อเด็กอายุ 9 เดือนและเข็มที่สองเมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหัดจะมีอัตราการตายต่ำในเด็กทั่วไปที่แข็งแรง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในเด็กเล็กและเด็กที่มีภาวะขาดสารอาหาร