ปวดศีรษะไมเกรน (MIGRAINE HEADACHE) คืออีกหนึ่งอาการปวดหัวที่สามารถพบเห็นได้บ่อยเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากอาการปวดศีรษะแบบตึงเครียด ปวดศีรษะไมเกรน สามารถพบได้บ่อยในผู้หญิง มากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า อาการเลห่านี้สามารถพบอาการเริ่มแรกได้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นถึงช่วงวัยกลางคน
อากการปวดศีรษะไมเกรนแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ
1) ปวดศรีษะไมเกรนที่ไม่มีอาการเตือน (Migraine without aura) เป็นประเภทที่พบมากที่สุดในกลุ่มของไมเกรน
2) ปวดศรีษะไมเกรนที่มีการแจ้งเตือน (Migraine with aura) คำเตือนจากการปวดไมเกรนที่พบบ่อยคือความผิดปกติของการมองเห็น ซึ่งจะเห็นแสงเป็นเส้นซิกแซกเหมือนฟันเลื่อย อาจมีสีและไม่มีสีหรือเห็นภาพมืดบางส่วนหรือมองไม่เห็นภาพชัดเจน ซึ่งความผิดปกติของการมองเห็นจะเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ในด้านของอาการเตือนอื่นๆที่สามารถพบเห็นได้ เช่น อาการชาที่แขนมือหรือชารอบปากไม่สามารถพูดได้ชั่วคราว หรือแขน-ขาซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายนั้นมีอาการอ่อนแรงแบบผิดปกติ เป็นต้น
การดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยไมเกรน
1) พยายามสังเกตตัวเองและคอยหลีกเลี่ยงสิ่งที่คอยกระตุ้น ที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ
2) นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และต้องตรงตามเวลาทุกวันเพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นอย่างเต็มที่
3) ไม่หักโหมการออกกำลังกายเกินไป พยายามออกกำลังกายเบาๆแต่สม่ำเสมอ
4) ห้ามสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบ
5) งดเครื่องดื่มของที่มีคาเฟอีน เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง, ชา, กาแฟ, น้ำอัดลมเป็นต้น
6) ในผู้ที่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมกำเนิด ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
7) ถ้าอาการปวดศีรษะรุนแรงมากขึ้น หรือมีลักษณะเปลี่ยนแปลงไป ควรปรึกษาแพทย์ทันที
วิธีการรักษาไมเกรน แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
1) สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในระยะที่มีอาการปวดศีรษะแบบเฉียบพลัน การกินยาทันทีหลังจากเริ่มมีอาการปวดหัวจะมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดศีรษะใช้เฉพาะเมื่อมีอาการปวดหัว
2) ในระยะที่ไม่มีอาการปวดหัว (ยาป้องกันไมเกรน) ต้องทานอย่างต่อเนื่องทุกวัน