“ลูก” เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากอดที่สุดในโลก จึงไม่แปลกที่พ่อแม่จะชอบหอมแก้มลูก และกอดรัดฟัดเหวี่ยงลูกตลอดเวลาที่อยู่ใกล้กัน ทั้งแก้มกลมๆน่าหอม เนื้อตัวนุ่มนิ่มน่ากอด สายตาบริสุทธิ์ที่อยากจะมอบความรักให้ รวมถึงเสียงพูดอ้อแอที่ฟังแล้วไพเราะที่สุดในโลก รวมๆกันแล้วทำให้พ่อแม่อย่างเราอดใจไม่ไหวที่จะกอดจะหอมลูกกันเหลือเกิน
คุณพ่อคุณแม่รู้มั๊ยว่า การกอดลูกหรือการสัมผัสกายลูกบ่อยๆนั้น ทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้งด้านอารมณ์และจิตใจ รวมถึงเมื่อเจอปัญหาต่างๆในอนาคตเขาจะสามารถรับมือกับปัญหานั้นได้ดีด้วย เพราะการกอดหรือการสัมผัสร่างกายลูกบ่อยๆ มีส่วนไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมานั่นเอง นอกจากนี้การกอดลูกบ่อยๆยังมีข้อดีอีกมาก ดังนี้
1. ผ่อนคลายความเครียด
เด็กเล็กๆมักจะชอบงอแง อาจจะงอแงเนื่องจากหิวนม รู้สึกเฉอะแฉะเนื้อตัว และอีกสาเหตุหนึ่งก็คืองอแงอยากให้แม่กอดนั่นเอง พอแม่กอดเด็กก็จะหยุดร้องไห้แล้วสงบลงอย่างเหลือเชื่อ นั่นเป็นเพราะว่าเขาสุขใจที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของแม่ เหมือนอ้อมกอดของแม่ช่วยผ่อนคลายความเครียด หรือความกลัวให้กับเขา เหมือนเวลาที่พ่อแม่เครียดๆมา พอได้เห็นหน้าลูก ได้กอด ได้หอมลูก ก็รู้สึกว่าความเครียดทั้งหมดที่สะสมมาก็หายไป มันเหมือนเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ
2. รับรู้และสัมผัส
ในช่วง 6 เดือนแรกของลูก ลูกจะรับรู้และสัมผัสการกอดได้ดี ดังนั้นช่วงเวลานี้แหละคุณพ่อคุณแม่ควรกอดลูกให้บ่อยๆ ลูกจะได้รับรู้ถึงความรักที่พ่อแม่มีให้ ทั้งยังเป็นการส่งผลให้พัฒนาการด้านอารมณ์ของลูกดีขึ้นตามไปด้วย
3. เชื่อมั่นในตัวเอง
การกอดลูกบ่อยๆ ทำให้ลูกมั่นใจว่าพ่อแม่อยู่ข้างๆเสมอ โดยเฉพาะการกอดลูกในช่วงอายุ 1 – 3 ขวบ เมื่อลูกมั่นใจแล้วว่าพ่อกับแม่รักและคอยอยู่เคียงข้างลูก ลูกก็จะมีความเชื่อมั่นในตัวเองในการทำสิ่งต่างๆ และยังมีส่วนทำให้ลูกเติบโตมาเป็นเด็กที่มีทัศนคติที่ดี และเป็นเด็กอารมณ์ดีอีกด้วย
4. ช่วยกระตุ้นการทำงานของปอดและหัวใจ
ตอนที่แม่อุ้มลูกน้อยไว้ตรงแนบอก ลูกจะได้ยินเสียงชีพจรเราอย่างชัดเจน แล้วเด็กจะเริ่มหายใจตามจังหวะการเต้นของหัวใจแม่โดยอัตโนมัติเลย เราถึงอยากให้คุณแม่อุ้มลูกบ่อยๆ เพื่อเป็นการฝึกปอด หัวใจ และระบบการหายใจของลูกให้เป็นปกติ คุณแม่อาจตบหลังลูกน้อยเบาๆเป็นจังหวะไปด้วยก็ได้
5. เสริมภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรง
การกอดเป็นการสัมผัสแบบถึงเนื้อถึงตัวกัน เมื่อพ่อแม่กอดลูก พลังงานของพ่อแม่จะถูกส่งผ่านไปยังร่างกายของลูก ระหว่างที่กอดลูกแนะนำให้ใช้ฝ่ามืออุ่นๆ กดลงที่บริเวณหน้าอกลูกเบาๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นจุดศูนย์กลางของร่างกาย ควบคุมและรักษาปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวให้สมดุล ร่างกายของลูกก็จะพร้อมต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายได้ดี
6. เป็นการลงโทษที่ดีที่สุด
บางทีลูกอาจจะทำผิดโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในเด็กเล็ก แล้วพ่อแม่ต้องการตักเตือนลูกว่าทำแบบนี้มันไม่ดี สามารถใช้การกอดเป็นการลงโทษให้กับลูกได้ โดยไม่ต้องดุด่าให้ร้องไห้ เพราะการกอดเป็นการลงโทษที่ดีที่สุดและได้ผลดีกว่าการตีหรือดุด่า ความอบอุ่นจากการกอดจะทำให้ลูกรู้สึกว่าเขาได้รับการอภัย ไม่ต้องกลัวว่าพ่อแม่จะทอดทิ้ง เมื่อกอดแล้วก็ให้อธิบายว่าการกระทำของลูกมันไม่ดียังไง ลูกจะได้เข้าใจและจำเอาไว้เป็นบทเรียน ครั้งหน้าจะได้ไม่ทำผิดอีก