สารบัญเนื้อหา
การสร้างพัฒนาการของเด็ก
กรมอนามัยเปิดเผยถึงประโยชน์ของอาหารกลางวันที่มีคุณภาพและมาตรฐานโภชนาการสำหรับเด็กวัยเรียน จะช่วยให้ร่างกายโตขึ้นมีการพัฒนาการในด้านของการเรียนรู้จดจำและช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัยและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ากรณีของสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ข่าวรัฐบาลในเรื่องของการสั่งยกเลิกโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมทั่วประเทศของเรา ซึ่งไม่ได้เป็นความจริงเลย เพราะโครงการยังคงเหมือนเดิม ซึ่งเด็กวัยเรียนวัยนี้ควรกินอาหารกลางวันที่มีประโยชน์ เพื่อให้ได้สารอาหารที่ดีจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมันวิตามิน แร่ธาตุ รวมไปจนถึงเกลือแร่ อย่างเหมาะสม เพื่อเป็นการช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตอย่างมีพัฒนาการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนรู้ ความจำ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติเพราะ การที่ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารน้อยลงจะทำให้เด็กนั้นมีการเจริญเติบโตอย่างไม่เหมาะสมตามอายุเช่น มีขนาดตัวเล็กต่ำแคระ ภูมิคุ้มกันต่ำ สติปัญญาต่ำการเรียนรู้ช้า ฯลฯ กลับกันถ้าหากเด็กได้รับพลังงานมากกว่าความต้องการของร่างกายจะทำให้เด็กมีน้ำหนักเกิน และนำไปสู่โรคอ้วนรวมถึงโรคอื่น ๆ อีกมากมาย ที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกายดังนั้นจึงควรส่งเสริมให้เด็กในโรงเรียนได้รับจำนวน สารอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพที่ดี
พญ.อัมพร กล่าวว่ากลุ่มอาหารที่เด็กนักเรียนควรได้รับ คือ
1.. อาหารจำพวกเนื้อสัตว์
เพราะ เป็นโปรตีนที่ช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อและฮอร์โมน ควรเลือกเนื้อที่ไม่ติดมัน เพื่อปลูกฝังนิสัยการบริโภคที่ดีสำหรับเด็ก
2. นม
นมถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้โปรตีนและแคลอรี่สูง นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมจำนวนมาก เหมาะสำหรับเด็กทีอยู่ในวัยกำลังโตเด็ก ๆ จึงควรดื่มนมวันละ 2 แก้มทุกวัน
3. ข้าวหรือแป้งต่าง ๆ
เป็นสิ่งที่ควรจัดให้เด็กในทุกมื้อของอาหาร เลือกข้าวหรือแป้งที่ผ่านการขัดสีน้อย เพราะจะมีวิตามินและแร่ธาตุมาก
4. ผลไม้และผักสดเด็ก ๆ
ควรบริโภคทุกมื้อ และควรเปลี่ยนใช้ให้หลากหลายชนิด เพื่อให้เด็กได้รับวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วนโดยเฉพาะวิตามินซี
5. เด็ก ๆ ควรดื่มน้ำสะอาด
6-8 แก้วต่อวันหรือให้เพียงพอสำหรับปริมาณที่สูญเสียไปในแต่ละวัน