เป็นอีกภาวะหนึ่งที่สามารถบอกได้ว่าคุณกำลังเป็นคนท้องอ่อนๆอยู่ เนื่องจาก “อาการคลอดบุตร” ในระยะแรกอาจไม่เหมือนกันบางคนมีอาการแพ้อย่างรุนแรง หรือบ้างคนนั้นกลับไม่มีอาการอะไรแสดงออกมาเลย เพราะฉะนั้นแล้วอาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังท้องอยู่หรือไม่ จะมีอาการอย่างไรบ้างตามาดูกันได้เลย
สารบัญเนื้อหา
ประจำเดือนขาด
หากช่วงเวลาปกติแล้วมันควรจะมา แต่กลับหายไป รอแล้วรออีกก็ไม่สักที แสดงให้เห็นว่าคุณอาจจะตั้งครรภ์ เพราะหลังจากการปฏิสนธิการมีประจำเดือนหายไป แนะนำให้ซื้อแบบทดสอบการตั้งครรภ์เพื่อตรวจสอบ
คลื่นไส้ – อาเจียน
เป็นอาการที่พบบ่อยมาก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการตั้งครรภ์ อาการคลื่นไส้และอาเจียนมักเกิดขึ้นจากตัวอ่อนในระยะเวลา 1 เดือน และลดลงหลังจากเข้าสู่ไตรมาสที่สอง แต่สำหรับคุณแม่บางท่านอาจมีอาการแพ้ท้องเร็วกว่ากำหนด ในขณะที่บางท่านนั้นก็แสนจะโชคดี เนื่อจากพวกเขาไม่มีอาการแพ้ท้องเลย หรือบ้างท่านนั้นก็โชคไม่ดีแพ้ท้องจนถึงเดือนสุดท้ายก่อนลูกเกิดเลยละ
อาการเหม็นไปทั่ว
ผลของเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้นของสาวๆ เนื่องจากกำลังตั้งครรภ์อาจทำให้แม่ที่ตั้งครรภ์กลายเป็นคนที่มีความไวต่อกลิ่น ได้กลิ่นอะไรก็เหม็นไปซะหมด แม้ว่ามันจะเป็นซอสหอยนางรมที่เคยชอบ หรือน้ำหอมที่เคยฉีดเป็นประจำก็อาจไม่ได้เป็นของรักอีกต่อไป
หน้าอกบวมและเจ็บ
เต้านมของคุณแม่ลูกอ่อนช่วงไตรมาสแรก อาจจะบวมขึ้นมากกว่าเดิม เนื่องจากมีเลือดมากขึ้นเพื่อเข้าไปเลี้ยงบริเวณนั้นจนบ้างครั้งอาจทำให้รู้สึกเจ็บหน้าอก ที่สำคัญมีความไวต่อการสัมผัส คล้ายกับอาการก่อนมีประจำเดือน
เหนื่อยล้า
รู้สึกเหนื่อยมากแม้จะไม่ได้ทำอะไร รู้สึกง่วงตลอดทั้งวัน เนื่องจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ต้องกังวลเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่สองพลังของคุณจะกลับมา
เลือดออกทางช่องคลอด
เมื่อมีการฝังตัวของตัวอ่อนในครรภ์มารดาบางคนอาจมีเลือดออกทางช่องคลอดอาการนี้มักเกิดขึ้นหลังจากที่ตัวอ่อนตั้งท้องนานถึง 11-12 วัน
ท้องป่อง
หน้าท้องที่แบนจะป่องออกมาเพียงป่องเล็กน้อยเท่านั้น รู้สึกได้ถึงเอวของกางเกงรัดรูปเล็กน้อยเนื่องจากมีก๊าซในท้องมากขึ้นเท่านั้นเอง
ปัสสาวะบ่อย
อาการปวดปัสสาวะบ่อยเป็นเรื่องปกติสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากร่างกายจะผลิตเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ มากขึ้นทำให้ไตขับของเสียออกมาในรูปของของเหลวมากขึ้นเช่นกัน
มีอาการท้องผูก
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในร่างกายเมื่อตั้งครรภ์ การบีบตัวของลำไส้ลดลง ในการแก้อาการท้องผูกในการตั้งครรภ์ประเภทนี้คือพยายามกินใยอาหารมาก ๆ ดื่มน้ำปริมาณมากและออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยแก้อาการผูกได้ดี
วิธีดูแลตัวเองตอนท้องอ่อนๆ
- การดูแลฝากครรภ์เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์และไปพบแพทย์ทุกครั้ง
- เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะสม
- ทานยาและวิตามินทั้งหมดตามที่แพทย์กำหนด
- ออกกำลังกายเบาๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การปั่นจักรยานอยู่กับที่หรือโยคะ เป็นต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงโดยเฉพาะในช่วง 14 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 10-12 แก้วจะช่วยปรับปรุงระบบไหลเวียนโลหิตดีมากขึ้น ทำให้การไหลเวียนของสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกทำงานได้ดี และที่สำคัญช่วยลดอาการท้องผูกและขับสารพิษได้ดี
- ไม่เครียดตอนท้อง หากแม่เครียดเกินไป จะส่งผลกระทบต่อลูกในท้องได้