วิธีการสังเกต “ยาหมดอายุ”
หลายๆคนที่ป่วยแล้วไปซื้อยาตามร้านขายยา ที่มีเภสัชที่คอยจัดยาให้ แต่ด้วยความที่เรานั้นไว้ใจจนลืมดูวันหมดอายุไป แน่นอน เรื่องแบบนี้ใครๆก็พลาดกันได้ ยิ่งร้ายขายยาใหญ่ๆก็อาจจะมีเล็ดลอดออกมา แล้วแบบนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่ายาที่เราซื้อมานั้นหมดอายุ นอกจากวันหมดอายุก็ยังมีเรื่องของยาที่เสื่มสภาพมาบอกกันด้วยค่ะ แน่นอนว่านอกจากเวลาและวันที่ข้างขวดแล้วก็ยังมีการสังเกตุจากลักษณะของยาได้อีกด้วยค่ะ
วิธีสังเกตยาที่หมดอายุ
1.ยาบรรจุภัณฑ์ของผู้ผลิตสามารถสังเกตง่าย ๆ ได้จากวันหมดอายุที่ระบุไว้บนฉลากหรือ บรรจุภัณฑ์ เช่น กล่องยา ฯลฯ ในกรณีของเดือนที่หมดอายุและปีที่เฉพาะเจาะจง วันที่หมดอายุจะเป็นวันสุดท้ายของเดือน
2.ยาที่บรรจุมาจากบรรจุภัณฑ์ดั้งเดิมของผู้ผลิตทั้งในรูปแบบของแข็งและของเหลวจะมีอายุไม่เกิน 1 ปีหลังจากวันที่บรรจุ แต่ถ้าวันหมดอายุที่ระบุนั้นสั้นกว่า 1 ปี ก็ควรนับตามผู้ผลิต
3.ยาที่มีสารกันบูดทั้งที่รับประทานและใช้ภายนอกควรเก็บไว้ไม่เกิน 6 เดือนหลังจากเปิด
4.ยาผงแห้งที่ใช่ผสมกับน้ำ หลังจากผสมน้ำอายุการใช้ยาจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับจาก บริษัท บนฉลากเท่านั้น
5.ยาหยอดตา หากมีสารต่อต้านแบคทีเรียการเจริญเติบโตของเชื้อโรค (Preservative) จะไม่เกิน 1 เดือนหลังจากเปิดใช้งาน แต่ถ้าเป็นชนิดที่ไม่เพิ่มสารต่อต้านแบคทีเรียควรใช้ให้หมด ภายใน 1 วัน
6.ยาในบรรจุภัณฑ์ของผู้ผลิตที่ เปิดใช้งานแล้ว ควรสังเกตลักษณะของยาในช่วงที่ใช่ไปด้วย หากลักษณะทางกายภาพของยา เช่นสี กลิ่น รสหากมีการเปลี่ยนแปลงไม่ควรที่จะใช้ยาต่อไป
วิธีสังเกตอาการเสื่อมของยา
1.ยาชนิดน้ำที่มีตะกอนแขวนอยู่ เมื่อตั้งไว้จะสังเกตเห็นว่ามีชั้นที่แยกจากกันอย่างชัดเจน และเมื่อเขย่าขวดยาจะกลับสู่ความเป็นเนื้อเดียวกัน ยาชนิดน้ำที่มีตะกอนแขวนมีอาการอาการเสื่อมสภาพของยา เมื่อเขย่าขวดอย่างแรงยาจะไม่กลับไปเป็นเนื้อเดียวกัน หรือจะเกาะกันเป็นตะกอนอยู่ไม่รวมเป็นเนื้อเดียว
2.ยาน้ำบางชนิดเช่น ยาที่มีตะกอนน้ำแบบเบา เช่นยาแก้ไอ, น้ำดำ, ยาน้ำโบราณ, ยาสตรีวิธีการรู้ว่ายานั้นเสื่อมสภาพหรือไม่ จำเป็นต้องสังเกตสีกลิ่นและรสชาติที่เปลี่ยนของยา
-สำหรับยาน้ำใสเช่นยาน้ำเด็ก หากพบว่ามีตะกอนเกิดขึ้นหรือขุ่นเช่นมีเยื่อตะกอนลอยหรือมีกลิ่นการเปลี่ยนสีแสดงว่ายานั้นเสื่อมสภาพ ให้ทิ้งได้เลยแบบทันที
3. กรณีของยาเม็ด การที่มีลักซณะบิ่น หรือว่าแตกก เปลี่ยนสี แนะนำว่าให้ทิ้งได้เลยค่ะ
4.ยาที่เป็นเม็ดแคปซูล จะดูแตกต่างแบบชัดเจน จากอาการบวมจากความชื้น หรือสีที่เปลี่ยนแปลงไป
แบบนี้แล้วก่อนที่จะทานยา อย่าลืมที่จะสักเกตมายาของเรานั้นมีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ผิดปกติจากเดิมรึป่าว ไม่เช่นนั้นจากยาที่มาชวยในการรักษาโรค อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นซะเอง อาการแบบนี้อย่าลืมที่จะดูแลตัวเองนะคะ