ระวัง! กินแล้วนอนอาจเป็นโรคกรดไหลย้อนได้

ในยุคปัจจุบันที่แต่ละคนต้องยุ่งวุ่นวายกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน การเดินทาง ทำให้เวลาว่างในแต่ละวันของเรามีน้อยมาก บางคนอาจแทบไม่ได้พักผ่อนเลย และด้วยเหตุนี้เองอาจทำให้รับประทานอาหารในแต่ละวันไม่ตรงเวลา บางครั้งอาจมีการรับประทานอาหารในมื้อดึกก่อนนอน ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ และอาจนำไปสู่โรคกรดไหลย้อนได้

 

อาการเป็นแบบไหน

ผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดแสบร้อนบริเวณกลางอก รู้สึกจุกแน่นหน้าอกอยู่บ่อยๆ ส่วนอาการที่อาจพบได้บ้างในผู้ป่วยบางราย คือ อาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีปัญหาในการกลืนอาหาร อาจรู้สึกระคายเคืองลำคอ เสียงแหบแห้งหลังจากเพิ่งตื่นนอน มีอาการเจ็บคอและไอเรื้อรัง อาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากที่กรดในกระเพาะอาหารย้อนกลับไปที่หลอดอาหารนั่นเอง

แค่กินแล้วนอนทำให้เป็นกรดไหลย้อนได้ยังไง?

ปกติแล้ว เมื่อคนเรารับประทานอาหารเสร็จแล้ว ร่างกายจะมีกระบวนการย่อยอาหารเกิดขึ้น หากเราเข้านอนทันทีหลังจากที่เพิ่งรับประทานอาหาร การนอนจะส่งผลให้การทำงานของระบบย่อยอาหารทำงานได้แย่ลง เพราะการนอนราบจะส่งผลให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับไปยังหลอดอาหารของเราได้ง่ายขึ้น ทำให้เราเกิดอาการจุกแน่น แสบร้อนกลางอก บางรายอาจมีปัญหากล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารหย่อน ไม่สามารถปิดกั้นระหว่างกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร จึงเกิดเป็นโรคกรดไหลย้อน

การใช้ชีวิตที่เร่งรีบเกินไปอาจทำให้หลายคนลืมดูแลตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัว จนอาจจะเผลอกินแล้วนอนอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าการทำแบบนี้อาจทำให้หลายคนรู้สึกสบาย และเผลอคิดไปว่าทำแบบนี้แล้วจะประหยัดเวลาในการทำสิ่งต่างๆ แต่ความจริงนำมาซึ่งโรคที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้น หากต้องการรับประทานอาหารมื้อดึกแล้วล่ะก็ ควรเว้นระยะเวลาระหว่างมื้ออาหารก่อนนอน ให้ห่างจากเวลานอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบการย่อยอาหารของเราทำงานได้เสร็จสิ้นเสียก่อน เมื่อเข้านอนแล้วร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่โดยที่ไม่มีปัญหาอะไรมารบกวน